มรรคผลนิพพาน เป็นสิ่งปัจจัตตัง คือ รู้เห็นได้จำเพาะตนโดยแท้ ผู้ใดปฏิบัติเข้าถึง ผู้นั้นเห็นเอง แจ่มแจ้งเอง หมดสงสัยในพระศาสนาได้โดยสิ้นเชิง มิฉะนั้นแล้วจะต้องเดาเอาอยู่ร่ำไป แม้จะมีผู้สามารถอธิบายให้ลึกซึ้งอย่างไร ก็รู้ได้แบบเดา สิ่งใดยังเดาอยู่ สิ่งนั้นก็ยังไม่แน่นอน
ยกตัวอย่างเช่น เต่ากับปลา เต่าอยู่ได้สองโลก คือ โลกบนบกกับโลกในน้ำ ส่วนปลาอยู่ได้โลกเดียวคือในน้ำ ขืนมาบนบกก็ตายหมด
วันหนึ่ง เต่าลงไปในน้ำแล้ว ก็พรรณนาความสุขสบายบนบกให้ปลาฟังว่า มันมีแต่ความสุขสบาย แสงสีสวยงาม ไม่ต้องลำบากเหมือนอยู่ในน้ำ
ปลาพากันฟังด้วยความสนใจและอยากเห็นบก จึงถามเต่าว่า "บนบกนั้นลึกมากไหม"
เต่า: มันจะลึกอะไร ก็มันบก
ปลา: เอ บนบกนั้นมีคลื่นมากไหม
เต่า: มันจะคลื่นอะไร ก็มันบก
ปลา: เอ บนบกนั้นมีเปือกตมมากไหม
เต่า: มันจะมีอะไร ก็มันบก
ให้สังเกตดูคำที่ปลาถาม เอาแต่ความรู้ที่มีอยู่ในน้ำถามเต่า เต่าก็ได้แต่ปฏิเสธ
"จิตปุถุชนที่เดามรรคผลนิพพาน ก็ไม่ต่างอะไรกับปลา"
ที่มา: หนังสือ "หลวงปู่ฝากไว้"
บันทึกคติธรรมและธรรมเทศนา หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์