... เราฟังธรรมก็เพื่อจะได้มีความรู้ ไปแก้ปัญหาของโลก
เพราะโลกอันนี้ไม่ต้องแก้ปัญหาอะไรให้มันมากมาย
มาแก้ความเห็นของเรา มาแก้ความคิดของเรา
มาแก้ทิฏฐิของเรา ให้มีความเห็นอันถูกต้องเป็นสัมมาทิฏฐิเท่านั้น
มาแก้ความเห็นของเรา มาแก้ความคิดของเรา
มาแก้ทิฏฐิของเรา ให้มีความเห็นอันถูกต้องเป็นสัมมาทิฏฐิเท่านั้น
โลกที่มันตั้งอยู่ มันก็ตั้งอยู่ตามสภาพของมัน
เพราะเราไปหลงโลก มันจึงทุกข์
โลกนั้นมันไม่ทุกข์ โลกนั้นมันไม่ยาก เราเป็นคนยาก
เพราะเราไปหลงโลก มันจึงทุกข์
โลกนั้นมันไม่ทุกข์ โลกนั้นมันไม่ยาก เราเป็นคนยาก
เหมือนกับเราเดินทาง หนทางไกลเท่าไร มันก็ไม่เหนื่อยกับเรา
หนทางไม่เหนื่อย เราผู้เดินนี้เหนื่อย เราผู้วิ่งนี้มันหนัก
หนทางมันจะไปไหนก็ช่าง มันไม่เมื่อย มันก็ไม่เหนื่อย
มันเหนื่อยเพราะเราเดินทาง มันเป็นอย่างนี้
ฉะนั้น ทางมันพอดีของมันอยู่ พอดีอย่างไร
ถ้าเราเดินเหนื่อยเราก็พัก ก็ไม่เป็นไร
ถ้าเราฉลาด ถ้าเหนื่อยแล้วยังขืนเดินไป ก็ตายกับหนทางเท่านั้นแหละ
ทางไม่เป็นอะไร ถึงแม้ว่าเราจะหยุด มันก็ไม่บังคับให้เราเดินไปอีก
ถึงแม้เราจะไปอีก มันก็ไม่บังคับให้เราหยุด
โลกมันเป็นอย่างนี้ ถ้าเรารู้จักทางก็รู้จักกำลังของเรา
พอสมควรเราก็พักได้ เราจึงค่อยเดินไป
เป็นเรื่องของเรา คนรู้จักทางเป็นอย่างนี้
คนรู้จักโลกก็เหมือนกัน โลกมันเป็นของมันอยู่อย่างนั้นเอง
ทางนั้นก็เป็นโลก โลกนั้นก็คือหนทาง
ถึงแม้ว่าเราเดินต่อมันก็ไม่สิ้นสุดสักที
โลกไม่ได้ทำให้เราทุกข์ เราทุกข์เอง
ทางนั้นก็เป็นโลก โลกนั้นก็คือหนทาง
ถึงแม้ว่าเราเดินต่อมันก็ไม่สิ้นสุดสักที
โลกไม่ได้ทำให้เราทุกข์ เราทุกข์เอง
ฉะนั้น จึงมาแก้ที่เรา ใจเรานี้มันหลงโลก ไม่ใช่โลกหลงเรา
เรามันหลงโลกเข้าใจไหม?
เรามันหลงโลกเข้าใจไหม?
ถ้าว่าอาหารทั้งหลาย ถ้ามันอร่อย ไม่ใช่อาหารมันหลงเรา
เรามันหลงอร่อยอันนั้น หลงหวาน หลงเปรี้ยว
หวานก็พอดีของมัน เปรี้ยวก็พอดีของมัน มันเป็นของพอดี
ที่มา : พระธรรมเทศนา เรื่อง "อย่าหลงอารมณ์"
หลวงปู่ชา สุภทฺโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
No comments:
Post a Comment